จองทะเบียนรถ
กทม รถเก๋ง: ทะเบียนสวยเลข VIP
ใช้รถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน
ในยุคที่เศรษฐกิจของประเทศไทยตกสะเก็ดอยู่ในขณะนี้ แถมราคาน้ำมันก็ขยับเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีก เราจึงมีเคล็ด (ไม่) ลับในการช่วยท่านประหยัดน้ำมันมาฝาก ท่านทราบหรือไม่ว่าการขับรถอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ท่านประหยัดและลดภาระค่า ใช้จ่ายในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังจะเป็นการรักษารถยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วย สำหรับวิธีการใช้รถให้ประหยัดน้ำมัน มีดังนี้
1. อย่าขับรถเร็ว การขับรถเร็วในการใช้รถทางไกล จะทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้นทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น ในกรณีที่ท่านขับรถที่มีความเร็ว 80 กม./ชม. ท่านจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์
2. อย่าออกรถเร็วแบบรถแข่งการออกรถเร็วอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆก็สึกหรอมากเช่นกัน
3. ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ
4. คาดการณ์ล่วงหน้าขณะขับรถเมื่อใกล้ทางแยกหรือทางม้าลายต่างๆ ควรจะชะลอความเร็วแต่เนิ่นๆไม่ใช่เมื่อใกล้แล้วจึงค่อยลดความเร็ว
5. กำหนดการใช้รถยนต์ในแต่ละวันเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวใช้รถในคราวเดียวกัน เพราะการใช้รถหลายเที่ยวทำให้เปลืองน้ำมัน
6. มีจุดหมายในการเดินทางการใช้รถจะต้องมีแผนการเดินทางว่าจะไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น ไม่ใช่ขับไปโดยไร้จุดหมาย
7. ดับเครื่องทุกครั้งที่จอดรถรอ หากต้องรอประมาณ 3-4 นาทีขึ้นไป ก็ควรดับเครื่อง
8. นอกจากประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วยังถนอมเครื่องไม่ให้ร้อนจัดอีกด้วย
9. การอุ่นเครื่องยนต์ในตอนเช้า ควรอุ่นเครื่องประมาณ 1-2นาทีก่อนที่จะใช้รถเพื่อให้เครื่องยนต์พร้อม ที่จะทำงานในวันนั้น การอุ่นเครื่องจะทำให้ระบบหล่อลื่นทำงานดีขึ้น ถ้าออกรถอย่างนิ่มนวลไม่รุนแรงก็ไม่ต้องอุ่นเครื่องก็ได้
10.ควรใช้เครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็นการใช้เครื่องปรับอากาศทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น และจะมีความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 10 เปอร์เซ็นต์และน้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมดซึ่งอาจหลงเหลืออยู่ ในกระบอกสูบจะเป็นตัวการทำให้เครื่องยนต์สึกหรออีกด้วย
11.ตรวจวัดลมยางอยู่เสมอควรเติมลมยางให้ได้ตามกำหนดมาตรฐาน ทั้งล้อหน้าและล้อหลังเพราะถ้าลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้หน้ายางมีความเสียดสีมาก ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากเช่นกันถ้าเติมลมยางแข็งเกินไปจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่ คือจะทำให้หน้ายางเสียดสีกับพื้นถนนน้อยเกินไปทำให้เกาะถนนหรืออาจทำให้ยางเกิดระเบิดได้ หากได้รับการสะเทือนมากเวลาขับบนถนนที่ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ
12.ตรวจเช็คและตั้งเครื่องยนต์ตามกำหนดต้องตรวจสภาพของรถ เครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ตามมาตรฐานที่กำหนดมาให้ เพราะถ้าอุปกรณ์ต่างๆ ของรถได้ตามมาตรฐาน การใช้น้ำมันก็จะน้อยกว่าสภาพรถที่ไม่ได้อยู่ตามมาตรฐาน
13.หมั่นตรวจไส้กรองเสมอ ไส้กรองเป็นส่วนสำคัญในการที่จะถ่ายเทอากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาภายในเครื่อง ถ้าชำรุดหรืออุดตันจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าปกติและจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
14.อย่าบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดรถยนต์ในแต่ละคันจะมีอัตราการบรรทุกบอกไว้ ถ้าบรรทุกน้ำหนักเกินจะทำให้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันมากขึ้นและมีการสึกหรอสูงกว่าปกติ
15.อย่าลืมปลดเบรกมือ ถ้าในรถยนต์รุ่นเก่า เมื่อปลดเบรกมือรถยนต์ก็วิ่งออกไปได้แต่จะมีความฝืดมากกว่า ปกติ ถ้าขับไปเรื่อยๆ จะทำให้เบรกเสียได้ และสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น แต่ในรถยนต์คู่มือมาตรฐาน สำหรับคนมีรถรุ่นใหม่ (กรังปรีดิ์ เรียบเรียง) ถ้าลืมปลดเบรกมือ รถยนต์จะไม่วิ่งต้องปล่อยเบรกมือเสียก่อนจึงจะวิ่ง อย่าลากเกียร์โดยไม่จำเป็น ควรเปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะและรอบความเร็วในการใช้งานนั้น เพราะการลากเกียร์นานๆ จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก กินน้ำมันมากขึ้น
16.เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสม การใช้น้ำมันหล่อลื่นตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตให้มา และการเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาการใช้งาน จะช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้มาก
17.อย่าบรรทุกสิ่งของบนหลังคาโดยไม่จำเป็น เพราะจะเกิดแรงต้าน
ทำความรู้จักกับทะเบียนรถ
ทะเบียนรถ ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ รถเก๋ง, รถกระบะ, รถตู้, รถมอเตอร์ไซต์, รถบรรทุก ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทไหน จังหวัดใดก็ย่อมต้องมีทะเบียนรถเป็นส่วนประกอบสำคัญด้วยเช่นกัน
ป้ายทะเบียนรถในประเทศไทย ตัวอักษรและตัวเลขจะถูกปั๊มนูนออกจากผิวหน้าของป้ายทะเบียน ประเภทของป้ายทะเบียนนั้นสามารถใช้จำแนกประเภทการใช้งานรถได้ ดังนี้
ป้ายขาวอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
ป้ายขาวอักษรฟ้า คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง
ป้ายขาวอักษรเขียว คือ ป้ายทะเบียนกระบะ
ป้ายแดงอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถใหม่ที่รอการจดทะเบียน
สำหรับป้ายทะเบียนรถอีกประเภทหนึ่งคือป้ายทะเบียนกราฟฟิค ป้ายทะเบียนนี้จะมีพื้นหลังเป็นรูปภาพ สำหรับเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ (เลขทะเบียนสวย) มี อาทิ
1,2,3,4,5,6,7,8,9, 11, 22, 33, 44, 55, 66, 77, 88, 99, 111, 222, 333, 444, 555, 666, 777, 888, 999
1111, 2222, 3333, 4444, 5555, 6666, 7777, 8888, 9999 และอีกมากมาย
ซึ่งเลขทะเบียนรถ เหล่านี้เปิดประมูลโดยกรมการขนส่งทางบก และสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th
แผ่นป้ายทะเบียนรถ เป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้เจ้าของรถนำไปติดรถคันที่นำมาจดทะเบียน ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะสามารถใช้ตรวจสอบข้อมูลว่ารถคันนั้นใครเป็นเจ้าของ หากเกิดอาชญากรรม หรือ รถถูกโจรกรรม ก็สามารถตรวจสอบจากระบบทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกได้ แผ่นป้ายทะเบียนยังแยกสีพื้นและสีตัวอักษรตามประเภทหรือลักษณะของรถ ถ้าใครเอาแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (ตัวอักษรสีเขียว) ไปติดรถเก๋ง (ตัวอักษรสีขาว) เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นก็รู้ได้ทันที สำหรับหมายเลขทะเบียนสวยที่นำออกประมูลเป็นเลขทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน หรือ รถเก๋ง เท่านั้น ป้ายกราฟิกที่ออกให้จึงนำไปติดได้เฉพาะรถเก๋งเท่านั้น แต่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่าน กรมการขนส่งทางบกได้จัดการประมูล ทะเบียนรถสวย ของรถตู้ และรถกระบะ ขึ้นแล้ว หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบทางโดยตรงได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือ 02-617-7898 (08.30-16.30 เฉพาะ จันทร์-ศุกร์)
ตัวเลขมงคลส่งผลอย่างไรกับชีวิต
เลขทะเบียนรถ เลขทะเบียนนำโชค ประจำราศีเดือนเกิด
ราศีมังกร เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 2
ราศีกุมภ์ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 5
ราศีมีน เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 6
ราศีเมษ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 9
ราศีพฤษภ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 7
ราศีเมถุน เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 4
ราศีกรกฎ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 8
ราศีสิงห์ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 3
ราศีกันย์ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 0
ราศีตุลย์ เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 6
ราศีพิจิก เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 5
ราศีธนู เลขทะเบียนรถนำโชค เลข 1
ค่าตัวอักษร ที่แปลงได้เป็นตัวเลข
ตัวอักษร
ก ด ถ ท ภ ฤ = 1
ข บ ป ง ช = 2
ต ฑ ฒ ฆ = 3
ค ธ ร ญ ษ = 4
ฉ ณ ฌ น ม ห ฮ ฎ ฬ = 5
จ ล ว อ = 6
ซ ศ ส = 7
ย ผ ฝ พ ฟ = 7
ฏ ฐ = 9
ความหมายของ ดาว ทั้ง 10 ดวง
1 ดาวอาทิตย์ดาวพลังความเชื่อมั่น
เป็นเลขแห่งผู้นำ ได้รับอิทธิพลจากดาวอาทิตย์ เป็นเลขแห่งความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีไหวพริบดีเยี่ยม สติปัญญาว่องไว กล้าหาญ มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นใหญ่เป็นโต กล้าเสี่ยง ถือความคิดอ่านตนเป็นใหญ่ เป็นผู้นำคน ชอบเด่นชอบดัง เป็นที่เคารพนับถือคนทั่วไป ใจคอเด็ดเดี่ยว คิดการเช่นไรมักจะรีบทำเดี๋ยวนั้น มั่นคงมีการตัดสินใจได้รวดเร็ว ไม่โลเล ชีวิตมักจะมีการเดินทางไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคต่างๆ เป็นเลขของเจ้าชะตะตาที่มีความแข็งแรงมีพลังร้อนแรง ชีวิตประสบความสำเร็จดี มีชื่อเสียง มีสมบัติทรัพย์ มีความสุข ดีได้ด้วยปัญญาความสามารถของ ทำงานด้านรับราชการ ทหาร ตำรวจ เป็นเจ้าคนนายคน ถือว่าเป็นเลขเริ่มต้น ทำอะไรก็เป็นที่หนึ่ง เป็นเลขที่ดีเลขหนึ่ง
หมายเลข 2 ดาวจันทร์ดาวพลังแห่งจินตนาการ
มักเป็นคนมีจินตนาการสูง จิตใจอ่อนไหว มองโลกในแง่ดี บางครั้งคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย
ขี้น้อยใจ ช่างคิด ช่างฝัน ชอบศิลปะ ชอบของละเอียดอ่อน มีอารมณ์ศิลปิน ไวต่อความรู้สึกสูง เปลี่ยนแปลงอารมณ์ง่าย ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อใจคนอื่นได้ง่าย ชอบชีวิตอิสระ ใครอยู่ใกล้แล้วจะมีความสุข เป็นคนอ่อนไหวแต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด จะควบคุมสติได้ดี มีความกล้าหาญ เข็มแข็ง หลิกผันสถานการณ์ได้ดี ทำงานเป็น ศิลปิน ดีไซด์เนอร์ นักออกแบบ สถาปนิก ฝ่ายศิลป์ทั้งหลาย นักออกแบบ ผู้ที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลปะมาประกอบอาชีพจะรุ่งเรือง ติดที่เป็นคนดื้อรั้นแบบดื้อเงียบ ช่างฝันและขี้อาย เจ้าระเบียบ ขี้จุกจิก ต้องลดความดื้อและความอายลงบ้างจะดี
หมายเลข 3 ดาวอังคารดาวพลังแห่งความกล้าหาญชาญชัย
ชอบการต่อสู้ ไม่ค่อยยอมแพ้ใคร เก่งกล้าสามารถ ชอบการแข่งขันเป็นที่สุด ถือทิฐิแพ้ไม่เป็น ดาวอังคารจึงถือเป็นทั้งสงครามที่แท้จริง อาจจะต้องต่อสู้ในชั้นเชิงธุรกิจหน้าที่การงาน แย่งลูกค้า ขับเคี่ยวกันด้วยชั้นเชิงธุรกิจต่างๆ คุณไม่ยอมแพ้แน่ๆ เรื่องความรักก็เช่นเดียวกัน จีบใครชนะจะภูมิใจมากๆ สิ่งที่คุณขยันขันแข็งต่อสู้นี้จะเป็นรากฐานสำคัญให้ชีวิตประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เหมาะจะทำงานเป็นฝ่ายการตลาดที่ต้องขับเคี่ยวกับสินค้าอื่นๆ เปิดธุรกิจส่วนตัวที่ต้องแข่งขันเยอะๆจะถูกใจคุณที่สุด หรือนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ตลาดหุ้นก็ได้ดี เพราะคุณไม่ชอบอะไรที่ได้มาง่ายๆอยู่แล้วนี่ ติดที่ต้องเหนื่อยและต่อสู้มากจึงจะสำเร็จ เลขนี้ดีแต่จะติดขัดไม่ราบรื่นเรื่องความรัก และมักจะเสียเงินไปกับของหรูหราเสมอ
หมายเลข 4
เป็นคนเฉลียวฉลาด ว่องไว รู้เท่าทันคนอื่น เอาตัวรอดได้ดีมาก ชีวิตประสบความสำเร็จดี รู้จักวางตัว ทันคนชอบติดต่อคบหาสมาคม ทำงานด้านการติดต่อสื่อสาร เป็นฝ่ายบริหารงานลูกค้า การตลาด ประชาสัมพันธ์ ตัวแทน เซลขายของ อาจารย์ งานที่ต้องติดต่อกับคนมากๆ
มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ ใครๆก็ชอบอยู่ใกล้ ชอบเข้ามาคบค้าสมาคมด้วย มีความคล่องตัวสูง ติดตรงที่จะเหนื่อยกับการเดินทางเสมอ เหนื่อยกับการติดต่อสื่อสาร บางครั้งจิตใจสับสนบอกความต้องการของตัวเองไม่ถูก
หมายเลข 5
ปัญญาทางด้านคุณธรรม ด้วยปัญญาที่มีอยู่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ประกอบการทำงานใดๆจะราบรื่นรุ่งเรือง มีจริยธรรมดี มีความยุติธรรม ไม่ทำร้าย เอาเปรียบใคร ชอบสิ่งเร้นลับ ไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหนือธรรมชาติ สิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นคนมีความสุขุมเยือกเย็น เป็นคนมองโลกในแง่ดี ให้ความสำคัญกับศาสนาทำงานด้านอาจารย์ นักปกครอง งานที่ต้องอาศัยความสุขุมรอบคอบดี ติดที่เป็นคนโกรธง่าย เชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูงทำให้ขาดเสน่ห์ไปได้
หมายเลข 6
มีเสน่ห์ รักสวยรักงาม มีจินตนาการความฝัน ชอบศิลปะ ชื่นชมในงานศิลปะต่างๆ ทำอะไรก็จะคำนึงภาพลักษณ์ตนเองเป็นอย่างแรก มีรสนิยมดีชอบศิลปะ และดนตรี สนุกบันเทิง เป็นคนที่ชอบความรักสบายอย่างมาก มีโลกส่วนตัว เจ้าสำราญเสมอ ไม่ชอบเอาเปรียบเบียดเบียนใครเลขนี้ดีมากจะส่งเสริมเงินทองไหลมาเทมา มีเสน่ห์ ชื่อเสียง มีความสำเร็จที่งดงาม ทำงานด้านช่างแต่งหน้า ศิลปิน Stylist นักประชาสัมพันธ์ ฝ่ายศิลป์ต่างๆ จะดี
หมายเลข 7
เลข 7 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
คน ญี่ปุ่นถือว่าเลข 7 เป็นเลขมงคล เพราะเลข 7 คนญี่ปุ่นอ่านออกเสียงว่า “ชิจิ” และที่ประเทศญี่ปุ่นมีประเพณีกินสมุนไพร 7 ชนิด ซึ่งเชื่อกันว่า จะทำให้สุขภาพดีด้วย
เลข 7 ในความเชื่อของชาวยุโรป
ชาว ยุโรปถือว่า เลข 7 เป็นเลขที่ดี เป็นเลขที่ให้โชคลาภ เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์และมีอำนาจพิเศษ ยิ่งถ้าหากมีหลายๆ ตัวจะทำให้เกิดโชคดีมากขึ้นไปอีก
หมายเลข 8
เลข 8 ในความเชื่อของคนไทย เป็นเลขที่มีความหมายเป็น 2 ทาง กลุ่มหนึ่งเชื่อว่า เมื่อเกี่ยวข้องกับเลข 8 จะร่ำรวย เลข 8 มีความหมายดี อีกทางหนึ่งเลข 8 ในความเชื่อของคนไทยบางกลุ่มเชื่อว่า เป็นเลขไม่ดี เป็นเลขแห่งราหู หมายถึง การทะเลาะวิวาท ความเดือดร้อน
เลข 8 ในความเชื่อของคนจีน ชาวจีนที่ทำการค้าจะชื่นชอบเลข 8 เป็นที่สุด เพราะเลข 8 ในภาษากวางตุ้งไปพ้องกับคำที่มีความหมายว่า ร่ำรวย มั่งมี ตั้งแต่เปิดประเทศมา ชาวจีนกวางตุ้งรุ่นแรกๆ ที่เริ่มมาทำการค้าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง คนจีนในมณฑลอื่นๆ จึงถือเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจ และถือเลข 8 เป็นเลขมงคลตามอย่างคนกวางตุ้ง รวมทั้งยังหมายถึง 8 เซียน หรือโป๊ยเซียน ที่คอยดูแลปกป้องรักษา ซึ่งในฮ่องกง ทะเบียนรถยนต์เลข 8888 คนจะแย่งประมูลกัน และมีราคาแพงกว่าราคารถเสียอีก เลข 8 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
ชาว ญี่ปุ่นถือว่าเลข 8 เป็นเลขมงคล ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า “ฮะจิ” ทำให้เกิดความเชื่อที่ว่า เป็นเลขแห่งความสมบูรณ์ ความสมดุล มีที่มาจากความเชื่อเรื่องศาสตร์แห่งความสมดุลของขงจื้อ รวมทั้งความเชื่อในนิกายเซ็นด้วย
หมายเลข 9
เลขนี้เป็นมงคลมาก เพราะได้พลังจากสิ่งที่มองไม่เห็นมาช่วยดูแลคุ้มครอง ช่วยทำให้กิจการงานใดๆประสบผลสำเร็จ บางครั้งมีอุบัติเหตุก็ทำให้รอดพ้นอย่างไม่น่าเชื่อ มีอายุยืนมั่นคง มีความคิดรวดเร็วว่องไว มีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ เลื่อมใส ศรัทธา สนใจในศาสนาเร้นลับสนใจของเก่าแก่ เลขนี้ทำให้อยู่สบาย เรื่องราวชีวิตราบรื่นได้โชคลาภแบบไม่คาดฝัน เพราะมีสิ่งพลังเร้นลับช่วยอยู่ ถ้าสวดมนตร์บ่อยๆและแผ่เมตตาบารมี พลังสวดมนตร์บำบัดจะช่วยให้พลังของสิ่งที่มองไม่เห็นช่วยคุณได้มากขึ้นไปอีก เลข 9 ในความเชื่อของคนไทย
เลข 9 เป็นเลขที่มีความหมายในทางมงคล “เลขเก้า” นอกจากเสียงจะเป็นมงคล เพราะออกเสียงพ้องกับคำว่า “ก้าว” ที่อาจหมายถึง ความก้าวหน้า ก้าวไกล หรือก้าวไปข้างหน้า บ้างก็ว่า เลข 9 ยังหมายถึง การมีอายุยืนด้วย ขอให้ สังเกตงานมงคลต่างๆ จะยึดเลข 9 เป็นหลักเวลานำมาใช้ในเรื่องของฤกษ์ยาม ที่ต้องเป็นวันที่ 9 เดือน 9 รวมทั้งขึ้นต้นหรือลงท้ายด้วยเลข 9
เลข 9 ในความเชื่อของคนจีน เลข 9 ถือเป็นเลขมงคล เนื่องจากเป็นเลขที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ความเป็นที่สุด นอกจากนี้ เสียงอ่านของเลข 9 ยังพ้องเสียงกับคำว่า “นาน ยาวนาน” ที่แสดงถึงการมีอายุยืน จึงทำให้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เลข 9 เป็นเลขที่ครองใจชาวจีนตลอดมา ไม่ต่างกับคนไทย
สีของป้ายทะเบียนรถ แตกต่างกันอย่างไร?
รถยนต์ที่จดทะเบียนแล้วทุกคันนั้น จะต้องติดแผ่นป้ายทะเบียนให้ครบถ้วน ถูกต้อง และในที่ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน สีของแผ่นป้ายทะเบียนรถที่หลากหลายและแตกต่างกันนั้น มีดังนี้
รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์รับจ้างสามล้อ รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง และรถ-จักรยานยนต์รับจ้าง รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด ได้แก่ รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ที่ใช้รับจ้างระหว่างจังหวัด โดยรับส่งคนโดยสารได้เฉพาะที่นายทะเบียนกำหนดพื้นแผ่นป้ายเป็นสีเหลืองสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็น สีแดง สำหรับรถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด สีดำ สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน และรถจักรยานยนต์ สีเขียว สำหรับรถยนต์รับจ้างสามล้อ สีน้ำเงิน สำหรับรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง
รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร รถยนต์บริการให้เช่า รถยนต์บริการธุรกิจ เช่น รถที่ใช้ขนคนในสนามบิน ท่าเรือ สถานีขนส่ง หรือสถานีรถไฟ และรถโรงแรม รถยนต์บริการทัศนาจร เช่นรถนำเที่ยวของบริษัททัวร์ โดยรถพวกนี้พื้นแผ่นป้ายเป็นสีเขียวสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็นสีขาว
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ พวกรถส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเก๋ง รถตู้ รถกระบะ มอไซค์ รถ MPV หรือรถ SUV โดย พื้นแผ่นป้ายเป็นสีขาวสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็น สีดำ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน และรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน สีเขียว สำหรับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สีแดง สำหรับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลหมายเหตุ จะมีแผ่นป้ายทะเบียนชนิดพิเศษ พวกเลขสวย โดยจะเป็นป้ายที่ออกให้ประมูล ซึ่งจะมีสีของพื้นแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขทะเบียน และตัวอักษรต่างไปจากแผ่นป้ายทะเบียนปกติ และแต่ละจังหวัด สีของพื้นแผ่นป้ายทะเบียนก็จะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก (ยกเว้นรถสามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ ไม่มีป้ายพิเศษนี้)
รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถใช้งานเกษตรกรรม พื้นแผ่นป้ายเป็นสีส้มสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลข และขอบป้ายเป็นสีดำ
รถยนต์ของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต และรถจักรยานยนต์ของคณะผู้แทนทางการทูต พวกรถทูต ลักษณะป้ายจะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ท ตามด้วยรหัสประเทศ ขีด แล้วก็เลขทะเบียน ตัวอย่างเช่นรถทูตญี่ปุ่นก็จะเป็น ท44 – 9999 พื้นแผ่นป้ายเป็นสีขาว (สังเกตว่าไม่มีคำว่า สะท้อนแสง) ตัวอักษร ตัวเลข และขีดเป็นสีดำ
รถยนต์ของบุคคลในหน่วยงานพิเศษของสถานทูต ในคณะผู้แทนทางกงสุล ในองค์การระหว่างประเทศ หรือทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประจำอยู่ในประเทศไทย และรถจักรยานยนต์ของบุคคลข้างต้น ลักษณะป้ายก็เหมือนรถทูต แต่ต่างกันตรงที่ รถในหน่วยงานพิเศษของสถานทูตจะใช้ตัวอักษร พ ส่วนรถกงสุลจะใช้ตัวอักษร ก ส่วนรถของสหประชาชาติ หรือองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ในไทย จะใช้ตัวอักษร อ และ พื้นแผ่นป้ายเป็นสีฟ้า (สังเกตว่าไม่มีคำว่า สะท้อนแสง) ตัวอักษร ตัวเลข และขีดเป็นสีขาว ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ ขนาด และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถ พ.ศ. ๒๕๔๗.